การเปลี่ยนน้ำจะมีประโยชน์หลายอย่างเช่น ช่วยลดไนเตรท, ลดฟอสเฟท, เพิ่มแคลเซี่ยม และแมกนีเซี่ยมด้วย นอกจากนั้นยังจะช่วยเจือจางปริมาณของสารพิษ สิ่งสกปรกต่างๆ และเชื้อโรค
การเปลี่ยนน้ำ (ข้อมูล และภาพประกอบจาก reefs.org โดยคุณ Troy Brightbill)
ปริมาณของไนเตรท ควรจะมีน้อยกว่า 5 mg/L (มิลลิกรัมต่อลิตร หรือ ppm.) ในกราฟจะแสดงผลการลดไนเตรทของน้ำทะเลที่มีปริมาณไนเตรทอยู่ 20 mg/L ปริมาณน้ำที่เปลี่ยน และจำนวนครั้งที่เปลี่ยน
จากค่าในกราฟ ถ้าเปลี่ยนน้ำ 10% จะต้องเปลี่ยนน้ำ 13 ครั้ง ปริมาณไนเตรทถึงจะลดลงมาที่ 5 mg/L ถ้าเปลี่ยนน้ำ 25% ก็ 5 ครั้ง สำหรับ 50% ก็ 2 ครั้ง ถ้าเปลี่ยนน้ำ สัปดาห์ละครั้ง ก็จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน, 1 เดือน และครึ่งเดือน ตามลำดับ
ถ้าจะดูตารางของการเปลี่ยนน้ำ 5%, 10%, 15%, 20%, 25% และ 50% ให้ดูเพิ่มเติมที่นี่
ปริมาณฟอสเฟท ควรจะน้อยกว่า 0.1 mg/L ในกราฟจะแสดงการลดฟอสเฟทของน้ำทะเล ที่มีปริมาณฟอสเฟทอยู่ 2 mg/L จะเห็นได้ว่า ถ้าจะลดปริมาณฟอสเฟตลงมาเหลือ 0.1 mg/L จะต้องเปลี่ยนน้ำ 28 ครั้ง สำหรับการเปลี่ยน 10%, 10 ครั้ง สำหรับการเปลี่ยน 25% และ 4 ครั้ง สำหรับการเปลี่ยน 50%
นอกจากนี้ การเปลี่ยนน้ำ ยังจะช่วยเพิ่มปริมาณของแคลเซียม และแมกนีเซี่ยม (เป็นแร่ธาตุที่มีปริมาณมากเป็น 3 เท่าของแคลเซียม) ซึ่งทั้งสองตัวนี้จะลดปริมาณลงจากการใช้ไปของพวกก้นตู้โครงแข็ง (ปริมาณของแคลเซียม ควรจะมี 400-500 mg/L แต่ในกราฟจะเห็นว่าการเปลี่ยนน้ำเพิ่มปริมาณแคลเซี่ยมได้ไม่ถึงระดับที่เหมาะสม จึงต้องเพิ่มปริมาณแคลเซียมด้วยวิธีอื่นเสริมด้วย)
หมายเหตุ: ค่าต่างๆ ที่ได้ เกิดจากการทดลองโดยควบคุมตัวแปรต่างๆ ไว้ เพื่อหาผลลัพธ์ที่แน่นอน ไม่ได้วัดค่าจากตู้ทะเลที่เลี้ยงอยู่จริง ซึ่งควบคุมตัวแปรต่างๆ ได้ยาก
References:
• Water Changes in the Reef Aquarium By Troy Brightbill
• Necessary Maintenance – Water Changes by D. Wade Lehmann